ทำไมจีนเป็นผู้นำของโลกในด้านโลจิสติกส์ และการจัดส่งภายในวัน

พูดได้ว่าจีนเป็นผู้นำโลกในด้านโลจิสติกส์และการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียวรองรับการส่งสินค้า ให้กับยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ เหตุผลที่จีนขึ้นชื่อเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์
Palo (น้องพะโล้)

Palo (น้องพะโล้)

รู้หรือไม่ ทำไมจีนเป็นผู้นำของโลกในด้านโลจิสติกส์และการจัดส่งภายในวัน

SHARES

       ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของจีนส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างมาก อาจพูดได้ว่าจีนเป็นผู้นำโลกในด้านโลจิสติกส์และการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียวซึ่งรองรับการ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง และสินค้าอื่น ๆ ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนอย่าง Alibaba และ JD.com เป็นสองโมเดลธุรกิจที่สร้างโซลูชันการจัดส่งของตนเองที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงได้กับบริษัทจัดส่งชั้นนำอย่าง Amazon ในสหรัฐอเมริกา เหตุผลที่จีนขึ้นชื่อเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ของโลก นั่นเพราะ

1. จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าประเทศอื่น ๆ

       จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประชากรจีนกว่าหนึ่งในสามของประเทศหันมาใช้บริการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ ผลักดันให้ธุรกิจขนส่งเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่สวนทางกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในจีนที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อไป

อินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในประเทศจีน

2. เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G

       เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G สนับสนุนให้กระบวนการสั่งซื้อและจัดส่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ร้านค้าปลีกออนไลน์เริ่มขายและจัดส่งถึงปลายทางเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น 

3. การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

       จีนถือเป็นผู้นำระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนที่สังคมไร้เงินสดจะแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสะดวกสบายของการซื้อของผ่านสมาร์ทโฟนง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเป็นปัจจัยสนับสนุนการซื้อของออนไลน์จากจีน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของจีนเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทั่วโลกง่ายขึ้น 

4. ในจีนประมาณ 70% เป็นการจัดส่งวันเดียวถึง

       การขนส่งพัสดุในจีนประมาณ 70% จัดส่งในวันเดียวกัน ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ชอบรอนาน หรือสั่งซื้ออาหารสดที่เน่าเสียได้ การ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง รวดเร็วทันใจแสดงให้เห็นว่าโลจิสติกส์ในจีนมีมาตรฐานระดับโลก

การขนส่งพัสดุในจีนประมาณ 70% จัดส่งในวันเดียวกัน

5. มีแผนกลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์

       เปรียบเทียบความสำเร็จของ Alibaba และ JD.com จะเห็นว่าแต่ละบริษัทวางแผนกลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์แตกต่างกัน ดังนี้

  • ฝ่าย Alibaba เข้าลงทุนหุ้นของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชื่อว่า Cainiao ซึ่งมีความร่วมมือในด้านคลังสินค้า การกระจายและขนส่งสินค้าถึงที่หมาย เรียกว่าอาศัยโครงสร้างพื้นฐานและพนักงานของหุ้นส่วนธุรกิจเป็นหลัก
  • ขณะที่ JD วางกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยลงทุนทำเองทั้งหมด มีคลังสินค้ามากกว่า 515 แห่งและเครือข่ายการขนส่งครอบคลุมทั่วประเทศ ยอดขนส่งพัสดุกว่า 90% จัดส่งในวันเดียวกันหรือวันถัดไป นอกจากนี้ยังลงทุนด้านนวัตกรรมในการจัดส่งใช้โดรนช่วยขนส่งพัสดุในพื้นที่ชนบทได้เร็วขึ้น รวมทั้งลงทุนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนภาคพื้นดินขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติสามารถจัดส่งพัสดุได้สูงสุด 30 ชิ้นต่อครั้ง จุดเด่นคือเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าช่วยให้ส่งพัสดุได้ถูกต้อง ง่ายดายและปลอดภัย

6. พัฒนาระบบการขนส่งในพื้นที่ชนบท

       บริษัทโลจิสติกส์ในจีนเร่งพัฒนาระบบการขนส่งในพื้นที่ชนบทห่างไกล เป้าหมายคือส่งมอบพัสดุได้ในวันถัดไป รับออเอร์สั่งซื้อแล้วพร้อมส่งถึงมือผู้รับปลายทางใน  48 ชั่วโมง

7. ระบบจัดการแบบอัตโนมัติ

       ระบบจัดการแบบอัตโนมัติลดต้นทุนการจ้างพนักงานและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ทางบริษัทขนส่งในประเทศตะวันตกหันมาใช้แอปพลิเคชั่นและระบบเช็คสถานะทางอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าติดตามพัสดุได้ แต่บริษัทขนส่งในจีนยังคงโทรศัพท์หาลูกค้าเพื่อแจ้งนัดหมายส่งพัสดุล่วงหน้า แม้จะดูล้าสมัยขัดแย้งกับเทคโนโลยีชั้นสูงในระบบโลจิสติกส์ แต่จีนยังคงเน้นบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ความสำคัญกับการส่งมอบพัสดุครั้งแรกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ คาดว่าจะเริ่มใช้แอปพลิเคชั่นเช็คสถานะและการแจ้งเตือนล่วงหน้ามากขึ้นเพราะต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นในอนาคต

       ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนทั้งสองรายเข้าใจว่าความเร็วเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในการจัดส่งและมุ่งเน้นการลงทุนด้านนี้อย่างมาก ไม่น่าแปลกที่จีนจะเป็นผู้นำของโลกในการโลจิสติกส์ เพราะจำนวนการส่งพัสดุไปถึงมือลูกค้าภายในวันเดียวมีมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งมากกว่าการจัดส่งในวันเดียวของธุรกิจโลจิสติกส์ในสหรัฐถึง 3 เท่า ลูกค้าไม่เพียงเลือกใช้บริการจัดส่งได้หลายรูปแบบเท่านั้น อัตราค่าบริการยังถูกกว่าในประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกบริการจัดส่งแบบสุดหรูสำหรับคนที่สั่งสินค้าแบรนด์เนมจะได้รับบริการจัดส่งระดับพรีเมี่ยม เช่น บริการ JD Luxury Express ซึ่งจะมีคนขับรถสวมสูทและสวมถุงมือสีขาวเข้าไปส่งมอบสินค้าหรูหราให้ถึงบ้าน

       ไม่เพียงประชาชนทั่วไป ธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายของชำ ต่างได้รับประโยชน์จากบริการ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง จัดส่งในวันเดียวกัน แต่ลูกค้าในต่างประเทศได้รับสิทธินั้นด้วย โดยหุ้นส่วนของ Alibaba วางแผนเพิ่มเที่ยวบินส่งออกเช่าเหมาลำเพิ่มขึ้น 5 เท่าจาก 260 เที่ยวเป็น 1,260 เที่ยว เพื่อลดลดระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าข้ามพรมแดนจาก 7-10 วัน เหลือเพียง 3-5 วัน โดยมีเป้าหมายจัดส่งพัสดุทั่วประเทศจีนภายใน 24 ชั่วโมงและทั่วโลกภายใน 72 ชั่วโมง ทางด้าน JD.com แสดงประสิทธิภาพการขนส่งของตนเองในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยใช้เทคโนโลยีโลจิสติกส์ขั้นสูงในการควบคุมยานยนต์และหุ่นยนต์อัตโนมัติจากระยะไกลสามารถจัดส่งเสบียงกระจายไปถึงโรงพยาบาลในมณฑลหวู่ฮั่นจากจุดควบคุมที่อยู่ในปักกิ่งซึ่งห่างออกไปถึง 120 กิโลเมตร

       เห็นได้ว่าการลงทุนที่สำคัญของยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนเป็นกลไกสำหรับในการผลักดันให้จีนมีความก้าวหน้าด้านการขนส่งแบบเร่งด่วนและการกระจายสินค้าไปทั่วโลกก็มีประสิทธิภาพสูงอย่างไม่มีใครเทียบได้ กลายเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของจีนเติบโตก้าวกระโดดแบบฉุดไม่อยู่ แน่นอนว่าผู้บริโภคชาวจีนได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่ดุเดือดจากการจัดส่งของภายในวันเดียว ทั้งยังเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกได้ง่ายที่สุด ลูกค้าในประเทศไทยเพียงคลิกมือถือเข้าใช้แอปพลิเคชั่นสั่งซื้อทางออนไลน์ ไม่กี่วันก็ได้รับของ และยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

ที่มาข้อมูล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *