การเลือกอาหารให้แมวนั้นเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากเพราะแต่ละสายพันธุ์ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งอาหารแมวส่วนใหญ่ในท้องตลาดนั้นมักจะเป็นอาหารสำเร็จรูปจำพวกอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก
อาหารแต่ละชนิดมีรูปแบบ ส่วนประกอบและสารอาหารที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคืออาหารสำเร็จรูป พวกนี้ผ่านการปรุงแต่งทั้งในเรื่องของสี กลิ่นและรสชาติทำให้หลาย ๆ ครั้งมีสัตว์เลี้ยงที่ป่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร โรคเบาหวาน และโรคไตที่มาจากการรับโซเดียมที่ผสมในอาหารที่มากเกินไป
ในปัจจุบันเทรนด์อาหารสุขภาพของสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก อาหารสุขภาพหรืออาหาร barf อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหาร barf นั้นเป็นอาหารสดที่อ้างอิงมาจากพฤติกรรมการกินของสัตว์ป่า สามารถให้สารอาหารได้ครบถ้วนมากกว่าอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก มาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนคงจะสงสัยแล้วว่าก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้ออาหารแมวนั้นควรคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นเราจะมาสรุปให้ทั้งหมด 5 ข้อดังนี้
1. พฤติกรรมของแมว
การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเจ้าเหมียวนั้นก็สำคัญต่อการกินอาหาร ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นแมวเลี้ยงในบ้านหรือระบบปิด จะไม่ค่อยได้วิ่งเล่นสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าเหมียวมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนหลับ อาหารที่ควรได้รับจึงควรเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง เน้นวิตามินและเกลือแร่ เป็นต้น
2. ช่วงอายุ
แมวในแต่ละช่วงอายุนั้นมีความต้องการในด้านสารอาหารไม่เหมือนกัน จึงควรที่จะเลือกซื้ออาหารให้เหมาะสมกับวัย เพื่อให้ได้รับ สารอาหาร ที่ครบถ้วนเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของแมว อย่างเช่น ลูกแมวที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี สารอาหารที่ต้องการเป็นพิเศษคือสารอาหารจำพวก แคลเซียมฟอสฟอรัสและโปรตีน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูกและฟันให้แข็งแรงมากขึ้น
3. ชนิดของอาหาร
จากที่กล่าวมาข้างต้น อาหารแมวนั้นมีหลากหลายแบบ มีทั้งอาหารเม็ด อาหารเปียกและอาหารสดหรืออาหาร barf อาหารแต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น อาหารเม็ดนั้นมีสารอาหารครบถ้วน ย่อยง่าย แต่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและบางชนิดก็มี ค่าโซเดียม มากเกินไป อาหารเปียกมีกลิ่นและน้ำค่อนข้างมาก เป็นทีชื่นชอบของเจ้าเหมียวในหลาย ๆ บ้าน แต่อาหารเปียกนั้น หากกินไม่หมดหรือทิ้งไว้นานอาจทำให้เจ้าเหมียวท้องเสียได้ เป็นต้น
4. ส่วนผสม
ในปัจจุบันส่วนผสมในอาหารแมวนั้นมีทั้งหมด 3 เกรด ด้วยกัน เริ่มจาก Commercial เป็นอาหารที่ใช้ส่วนที่เหลือจากสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทาน มีขายค่อนข้างมากในท้องตลาด ราคาค่อนข้างถูก เกรดที่สองคือ Premium ใช้วัตถุดิบที่ดีกว่าเกรดแรกเล็กน้อย มีการอ้างอิงปริมาณของสารอาหารอย่างชัดเจนและสุดท้ายคือ Holistic จะใช้เนื้อสัตว์เป็นหลัก ใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อนำมาผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ อาจมีการเติมสารอาหารเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสม
5. โภชนาการ
แมวแต่ละตัว แต่ละพันธุ์ แต่ละช่วงวัย มีความต้องการในเรื่องของสารอาหารแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมถึงแมวที่มี โรคประจำตัว หรือแมวที่ตั้งครรภ์ อย่างเช่น แมวเด็กอาหารจะต้องเน้นไปทางโปรตีน แคลเซียมฟอสฟอรัส แมวโตเต็มวัยจะต้องเน้นอาหารที่มีกากใยสูง ไขมันต่ำ แคลเซียมและโอเมก้า 3 แมวที่อยู่ในวัยชราก็จะเน้นไปทางเรื่องของโปรตีนที่ย่อยง่าย คาร์โบไฮเดรตต่ำ เป็นต้น
จากที่กล่าวมาทั้ง 5 ข้อนี้ สามารถช่วยให้หลาย ๆ คนตัดสินใจในการเลือกซื้ออาหารให้เจ้าแมวได้อย่างง่ายขึ้น แต่ในสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยนั้นทำให้การไปเดินทางไปเลือกซื้ออาหารค่อนข้างลำบาก การใช้บริการร้านค้าออนไลน์อาจจะตอบโจทย์ให้เหล่าทาสแมวสะดวกสบายมากขึ้นและยิ่งถ้ามีระบบขนส่งที่ดี การส่งสินค้าโดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการความสดใหม่อย่างอาหาร barf จะทำให้อาหารส่งตรงถึงมือทาสแมวได้อย่างรวดเร็วและคงความสดใหม่ ให้ทาสแมวได้สารอาหารอย่างครบถ้วน
MAKESEND เป็นขนส่งที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในวันเดียว มีสาขากระจายอยู่ทั่วเขตกรุงเทพและปริมณฑล ค่าจัดส่งไปไม่ได้แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 40 บาท การันตีได้ว่าเจ้าแมวของเราจะได้กินอาหารที่สด ใหม่ สะอาด พร้อมทั้งยังมีสารอาหารครบถ้วนแน่นอน
ที่มาข้อมูล
- https://www.baanlaesuan.com/237388/dontmiss/monchou-balanced
- https://www.shopat24.com/blog/how-to-choose-cat-food-for-each-age-range-for-complete-nutrition/
- https://www.makesend.asia/raw-meat-based-barf-delivery/
อ่านเพิ่มเติม
