หลายปีมานี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตรวดเร็วสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น คนทำธุรกิจจำเป็นต้องรู้จุดเด่นของบริการขนส่งพัสดุในประเทศไทยแต่ละราย ที่ต้องการความรวดเร็วในการจัดส่งเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
วันนี้เรามาดูกันว่าผู้ส่งสินค้ารายใดให้บริการได้น่าสนใจและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจของเพื่อนๆ
บริการขนส่งในไทย
การค้นหาผู้ให้บริการขนส่งในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ผู้ค้นหาใช้ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการขนส่งที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา นี่คือหลายๆ วิธีการค้นหาที่ผู้ค้นหาสามารถใช้ได้ :
- การค้นหาในเว็บสำหรับผู้ให้บริการขนส่ง เช่น Google
- Social Media
- เว็บไซต์รีวิวและเว็บบอร์ด เช่น Pantip, Wongnai หรือ TripAdvisor
- แหล่งข้อมูลและเว็บไซต์อื่นๆ
ความสำคัญของการเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสม
การเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีผลต่อความพึงพอใจและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจของคุณ โดยปัจจัยที่ช่วยให้การเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมมีดังนี้ :
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
- ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
- ความสามารถในการให้บริการที่เหมาะสม
- ความสะดวกสบายในการใช้บริการ
- ความคุ้มค่าและค่าใช้จ่าย
ผู้ให้บริการที่มีอยู่ในตลาดขนส่ง
1. เมคเซนส์ (Makesend)
- เมคเซนส์ (Makesend) เป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุเร่งด่วนที่ได้รับความนิยมที่สุดและมาแรงที่สุดในขณะนี้ โดยมีจุดเด่นด้านการจัดส่งรวดเร็วที่สุด ทีมบริการขนส่งของ Makesend เข้ารับของถึงหน้าร้านลูกค้าในตอนเช้าและกระจายสินค้าและพัสดุส่งถึงหน้าบ้านผู้รับภายในเขตกรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน (Bangkok Half Day) รับส่งเอกสารและพัสดุ
2. ไปรษณีย์ไทย
- ไปรษณีย์ไทย เปิดบริการขนส่งยาวนานกว่า 40 ปี มีศูนย์ไปรษณีย์ครอบคลุมทั่วประเทศเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ บริการส่งพัสดุแบบธรรมดา ลงทะเบียน และ EMS จุดเด่นคือส่งของชิ้นใหญ่ได้ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น หรือมอเตอร์ไซค์ นอกจากนี้ยังมีบริการรับพัสดุถึงบ้านและบริการส่งด่วนภายใน 1 วันในเขตภูมิภาคเดียวกัน ค่าบริการพัสดุบรรจุซองเริ่มต้น 13 บาท พัสดุบรรจุกล่องเริ่มต้น 20 บาท
3. Kerry Express
- Kerry Express เปิดบริการมาราว 4 ปี ธุรกิจขนส่งขยายตัวรวดเร็วและมีความร่วมมือกับธุรกิจหลายรายเปิดให้บริการส่งพัสดุ 24 ชั่วโมง ได้แก่ Family Mart, Tops, Officemate, B2S และจุดบริการตามสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงสำนักงานและที่พักอาศัยหลายแห่งในกรุงเทพฯ ค่าบริการเริ่มต้น 25 บาท การรับประกันสูงสุด 2,000 บาทต่อรายการ
4. DHL Express
- DHL Express เป็นบริษัทขนส่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก จุดเด่นคือบริการรับส่งสินค้าแบบ Door-to-Door โดยนัดเวลาให้เจ้าหน้าที่มารับของถึงบ้านช่วยลดเวลาดำเนินการของลูกค้า ส่งของชิ้นใหญ่ได้และมีบริการส่งด่วนไปต่างประเทศ ค่าบริการเริ่มต้น 45-50 บาท การรับประกันสูงสุด 2,000 บาทต่อรายการ
5. Flash Express
- Flash Express จุดเด่นคือแอปพลิเคชั่น Flash Express รับพัสดุฟรีถึงหน้าบ้าน บริการด้านโลจิสติกส์ Flash Logistics รับขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และบริการส่งพัสดุแบบ Speed รับประกันส่งช้าคืนเงิน ค่าบริการถูก เริ่มต้นเพียง 18 บาท การรับประกันสูงสุด 2,000 บาทต่อรายการ สามารถซื้อประกันเพิ่ม คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท
6. Line Man
- Line Man บริการฝากส่งไปรษณีย์ยังไม่ครอบคลุม มีบริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี และปทุมธานี จุดเด่นคือแอปพลิเคชั่น Line Man ให้บริการเรียกรับพัสดุถึงหน้าบ้านจนถึงเวลา 22.00 น. มีบริการเก็บเงินปลายทาง คิดค่าบริการต่อชิ้นรวมกับค่าบริการต่อเที่ยว
7. Grab Express
- Grab Express มีแอปพลิเคชั่น Grab บริการรับส่งพัสดุและเอกสารด่วนภายใน 40 นาที พื้นที่บริการจำกัดในเขตกรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ จุดเด่นคือความรวดเร็วและมีพาหนะให้เลือกหลายประเภท ค่าบริการรถมอเตอร์ไซค์ เริ่มต้น 36 บาท หรือจัดส่งภายใน 4 ชั่วโมง เริ่มต้น 59 บาท ส่วนรถยนต์และรถกระบะ เริ่มต้น 100-250 บาท ตามลำดับ การรับประกันทางมอเตอร์ไซค์ 10,000 บาทต่อการจัดส่งแต่ละครั้ง หรือทางรถยนต์คุ้มครองสูงสุด 15,000 บาทต่อครั้ง
8. LALAMOVE
- LALAMOVE เป็นบริการขนส่งที่เน้นความรวดเร็ว มีแอปพลิเคชั่น LALAMOVE บริการส่งพัสดุถึงบ้านตลอด 24 ชั่วโมงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าบริการทางรถมอเตอร์ไซค์เริ่มต้น 33 บาท จนถึงรถกระบะโครงเหล็กสูงเริ่มต้น 360 บาท การรับประกันทางมอเตอร์ไซค์ไม่เกิน 3,000 บาท ทางรถยนต์และรถกระบะสูงสุด 7,000 บาท
9. SCG Express
- SCG Express ให้บริการส่งพัสดุแบบเร่งด่วนถึงหน้าบ้านครอบคลุมทั่วประเทศ และส่งเอกสารด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัทในกรุงเทพฯ มีบริการจัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิและพืชผลทางการเกษตร ค่าบริการเริ่มต้น 25 บาทในการส่งแบบด่วน Door-to-Door ซึ่งจำกัดขนาด 250 เซนติเมตร และน้ำหนัก 25 กิโลกรัม การรับประกันสูงสุด 3,000 บาท
10. NIM Express
- NIM Express บริการส่งพัสดุสะดวกง่ายดายด้วยแอปพลิเคชั่น NiM มีจุดเด่นคือบริการส่งสินค้าขนาดใหญ่ และการจัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิทั่วประเทศ ค่าบริการจัดส่งแบบกล่องเริ่มต้น 30 บาท ส่วนบริการจัดส่งแบบเข้ารับพัสดุถึงบ้าน หรือ Door-to-Door เริ่มต้น 55 บาท การรับประกันสูงสุด 2,000 บาทต่อรายการ
11. SPEED-D
- SPEED-D บริการรับส่งพัสดุภายในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง จึงมีจุดเด่นด้านความสะดวก เลือกใช้บริการรับพัสดุถึงบ้านหรือที่ร้าน 7- Eleven สาขาใกล้บ้านได้ มีข้อจำกัดไม่รับส่งอาหาร, ขนม และผักผลไม้ ค่าบริการรับพัสดุที่ร้าน เริ่มต้น 15 บาท และค่าส่งพัสดุที่บ้านเริ่มต้น 35 บาท
รายชื่อผู้ให้บริการข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของบริการขนส่งพัสดุภายในประเทศซึ่งมีให้เลือกใช้บริการหลายราย แต่ละบริษัทมีจุดเด่นและค่าบริการแตกต่างกัน คนทำธุรกิจควรสอบถามรายละเอียดและข้อห้ามของทางบริษัทให้ชัดเจนก่อน บางรายห้ามส่งอาหารและสินค้าที่มีโอกาสเน่าเสีย
การเลือกผู้ให้บริการขนส่งให้เหมาะกับคุณ
การเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้ได้บริการที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของธุรกิจเพื่อนๆ นี่เป็นขั้นตอนที่เพื่อนๆ สามารถทำเพื่อเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสม
- วางแผนและกำหนดความต้องการ
- สำรวจและเปรียบเทียบผู้ให้บริการ
- สอบถามและขอใบเสนอราคา
- เปรียบเทียบราคาและบริการ
- ทดลองใช้และประเมินผล
MAKESEND เข้ามาช่วย ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง ผลไม้ ขนม เบเกอรี่ ที่รักษาอุณหภูมิไว้ได้อย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทั้งนี้ บริการขนส่งอาหารสดกำลังได้รับความนิยมเนื่องจากธุรกิจร้านค้าอาหารออนไลน์ที่เปิดให้บริการจำนวนมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จำเป็นต้องจัดส่งอาหารสดแบบควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้สินค้าสดใหม่ไปจนถึงมือผู้รับ ทีมงานขนส่งด้วยความระมัดระวังแบบ Food Grade Delivery บริการรวดเร็วประทับใจ อาหารสดใหม่มีคุณภาพ และราคาไม่สูงจนเกินไป ส่งผลให้กลุ่มลูกค้ากว้างขึ้นกว่าเดิม
อ่านเพิ่มเติม
- 5 ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุยอดนิยม
- ขายออนไลน์ทำไมต้องส่ง Same day Delivery บริการนี้ดีอย่างไร?
- Sameday Delivery เป็นอย่างไร ทำไมถึงดีกว่าในมุมมองผู้บริโภค
ที่มาข้อมูล