ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสุนัขคือหนึ่งในสัตว์เลี้ยงยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ก็ตาม ล้วนเอ็นดูอยากจับจองเป็นเจ้าของสุนัขสักตัว เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา เนื่องจากความน่ารักและแสนรู้ของสุนัขแต่ละสายพันธุ์นั้นมีเสน่ห์น่าดึงดูด
ชวนให้หลายคนหลงใหล แถมด้วยอุปนิสัยขี้เล่นและรักเจ้าของอย่างยิ่งก็ส่งผลให้ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงสุนัขนั้น มีเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจมากมาย รวมถึงประเด็นสิ่งของที่ต้องจัดเตรียมไว้ให้พร้อม ก่อนพาสุนัขเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน สิ่งแรกที่ควรเข้าใจคือ การให้อาหารสุนัข แต่จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกัน
ทำความรู้จักอาหารสุนัขแต่ละชนิดก่อน
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงสุนัขนั้น เรื่องแรกที่จำเป็นจะต้องศึกษาโดยละเอียดคือ ชนิดของอาหารที่เราจะนำมาให้สุนัขกินในแต่ละมื้อ ในปัจจุบันมีอาหารมากมายที่ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขและเสริมสร้างร่างกาย ตลอดจนบำรุงสุขภาพของสุนัขให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยหลักการทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็นชนิดต่าง ๆ ดังนี้
1. อาหารเม็ด
อาหารประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุนัขของเราครบถ้วน สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน อีกทั้งยังมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกกัน อาทิ
- แบบอัดรีด กระบวนการนี้ใช้ความร้อนสูงในการบีบอัดและทำให้อาหารเป็นก้อน
- แบบอบ หมายถึง อาหารที่ใช้ความร้อนต่ำ ทำให้ยังคงรักษารสชาติและสารอาหารไว้ได้
- แบบเคลือบ คือ อาหารที่นำเนื้อแช่แข็งใส่ไว้ด้านในและเคลือบด้วยผงอาหารบดที่ด้านนอก
2. อาหารกระป๋อง
เป็นอาหารเปียกที่คนนิยมให้สุนัขกินรองลงมาจากอาหารแบบเม็ด เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับชนิดอาหาร ป้องกันไม่ให้สุนัขเบื่ออาหาร และเพิ่มสารอาหารต่าง ๆ ที่หลากหลายให้สุนัข
3. อาหารแช่แข็ง
เป็นอาหารรูปแบบใหม่ที่สามารถนำมาผสมและปรุงเพิ่มเติมร่วมกับอาหารประเภทอื่น ๆ ทั้งในรูปแบบสุกและดิบ ซึ่งอาหารชนิดนี้จะมีสารอาหารมากกว่าชนิดเม็ดและกระป๋อง
4. อาหารดิบ
เป็นอาหารที่รู้จักกันในชื่อ barf ซึ่งเป็นอาหารดิบตามธรรมชาติ ที่สุนัขในอดีตสามารถไล่ล่าหากินได้เอง โดยกระบวนการทำอาหารประเภทนี้ต้องไม่ผ่านการปรุงแต่ง หรือความร้อนใด ๆ เพื่อรักษาความสดใหม่และคงคุณค่าทางโภชนาการอาหารให้มากที่สุด
5. อาหารดิบแช่แข็ง
เป็นอาหารอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ด้วยเหตุที่อาหารประเภทนี้ถูกไล่ความชื้นและถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ มาแล้ว จึงเก็บได้นาน ทั้งนี้ก่อนให้สุนัขกินต้อง นำไปแช่น้ำให้อาหารดิบแช่แข็งดูดน้ำเข้าสู่ตัว เพื่อให้พร้อมสำหรับการกินและช่วยป้องกันอาการท้องอืดที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุนัขนั่นเอง
ช่วงวัยกับอาหารที่เหมาะสม
สุนัขสามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วงวัย เราสามารถเลือกอาหารให้เหมาะกับสุนัขของเราได้ดังนี้
1. ช่วงอายุ 2-4 เดือน
เป็นช่วงที่สุนัขกำลังซุกซนและมีพลังงานค่อนข้างมากในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น อาหารที่เหมาะกับช่วงวัยนี้ คือ
- อาหารที่ให้โปรตีนไม่น้อยกว่า 30% อาทิ อาหารแบบ barf และอาหารกระป๋อง เป็นต้น
2. ช่วงอายุ 4 เดือนถึง 1 ปี
สุนัขวัยนี้จะชอบวิ่งเล่นตลอดเวลา ทั้งยังอยู่ในช่วงวัยที่หิวบ่อย กินเก่งและโตเร็ว จึงควรให้กินอาหารสำหรับวัยกำลังโต โดยเฉพาะ
- อาหารที่มีโปรตีนไม่น้อยกว่า 32% สามารถเลือกอาหารประเภททดแทนธัญพืช หรือ อาหารดิบที่เน้นโปรตีน
3. ช่วงวัย 1-2 ปีขึ้นไป
คือ สุนัขในช่วงวัยผู้ใหญ่ ควรเน้นอาหารสุขภาพมากขึ้น เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานอย่างสมดุล ทำให้ขับถ่ายเป็นปกติ
- อาหารที่เหมาะคือ เนื้อสัตว์ เช่น หมู ไก่ ปลา และผักหลากสี
สิ่งที่ต้องสังเกตก่อนเลือกซื้ออาหาร
เมื่อต้องเลือกซื้ออาหารสุนัข ผู้เลี้ยงมือใหม่ต้องคำนึงถึงส่วนผสมหลักและคุณค่าทางโภชนาการที่ฉลากภาชนะก่อนซื้อเสมอ เนื่องจากทั้งสององค์ประกอบนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างพัฒนาการของสุนัขที่ดี ทำให้ร่างกายสุนัขแข็งแรงสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาความเหมาะสมตามสายพันธุ์และอายุของสุนัขที่เลี้ยงอยู่โดยเฉพาะด้วย
ควรให้อาหารสุนัขบ่อยแค่ไหน
ปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อจะแตกต่างกันตามช่วงวัยและสายพันธุ์ของสุนัข เราควรแบ่งอาหารในแต่ละมื้อให้เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบทางเดินอาหารทำงาน หนักเกินไป หากเพื่อนๆ อยากทราบปริมาณที่เหมาะสมสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สุนัขแต่ละไซส์ควรได้รับอาหารปริมาณเท่าไหร่
นอกจากนี้ เรายังควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นในเรื่องของโรคประจำสายพันธุ์ การดูแลในแต่ละช่วงอายุ ประเภทอาหารแบบต่าง ๆ ที่ต้องลงลึกทั้งในเรื่องคุณค่าทางสารอาหารและโภชนาการ ต้องเลือกได้ว่า อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารปรุงเองแบบ barf ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ แบบไหนเหมาะกับสุนัขของเรา และช่วงวัยใดเหมาะกับอาหารประเภทไหนมากที่สุด
แม้ว่ารายละเอียดจะมากสักหน่อย แต่หากเรามีความตั้งใจที่จะดูแลสุนัขสักตัวแล้ว เรื่องดังกล่าวข้างต้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราอย่างแน่นอน เพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของสุนัขที่เรานำมาเลี้ยงได้ครบทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือสภาพแวดล้อม ที่ล้วนส่งผลให้เกิดความเครียดจากการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแบบฉับพลันได้ทั้งสิ้น
อ่านเพิ่มเติม
- ไขข้อข้องใจ สุนัขแต่ละไซส์ควรได้รับอาหารปริมาณเท่าไหร่
- วิธีเลือกอาหารสัตว์ให้เหมาะสมต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณ
- แจกสูตรอาหาร barf ที่ดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง
ขอบคุณข้อมูลจาก