วิธีการเลือกบรรจุภัณฑ์ในการจัดส่งให้เหมาะกับผักและผลไม้

อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าผักและผลไม้ทุกชนิดเป็นพืชที่เน่าเสียง่าย ดังนั้นการเลือกบรรจุภัณฑ์ผักหรือผลไม้ที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญทั้งต่อผู้บริโภค
Palo (น้องพะโล้)

Palo (น้องพะโล้)

SHARES

การส่งผักหรือผลไม้สดจากไร่ไปยังมือของลูกค้าเป็นเรื่องที่ลูกค้าเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น แต่อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าผักและผลไม้ทุกชนิดเป็นพืชที่เน่าเสียง่าย ดังนั้นการเลือกบรรจุภัณฑ์ผักหรือผลไม้ที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญทั้งต่อผู้บริโภคและการอยู่รอดของเกษตรกรในตลาดเป็นอย่างมาก

เราจึงอยากแนะนำวิธีการเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับผักและผลไม้ เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ต้องส่งผักและผลไม้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง แล้วจะทำอย่างไรบ้างนั้นไปดูกัน

ความหมายของ บรรจุภัณฑ์

ความหมายของบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ คือ สิ่งที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจะนำมาห่อหุ้มสิ่งของหรือสินค้าชนิดต่างๆ เพื่อทำการปกป้องหรือป้องกันสินค้าจากการขนส่ง และเป็นการช่วยเก็บรักษาสินค้าจากปัจจัยภายนอกที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ยังสามารถยืดอายุสินค้าเหล่านั้นได้ และยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมาก สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย เพราะฉะนั้นการใช้งานจึงอยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลนั่นเอง

หน้าที่ของบรรจุภัณฑ์

หน้าที่หลักของบรรจุภัณฑ์คือการรักษาผักหรือผลไม้ในลักษณะเฉพาะ ที่จะรักษาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาให้นานขึ้น

ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ผักหรือผลไม้ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการการตลาด ที่แท้จริงแล้วบรรจุภัณฑ์เป็นวิธีการสื่อสารกับลูกค้า ดังนั้นมันจึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลยุทธ์การขายอีกด้วย

ประเภทของบรรจุภัณฑ์

ฟังก์ชั่นของบรรจุภัณฑ์ผลไม้หรือผักสามารถสังเกตได้สองวิธี

1. บรรจุภัณฑ์หลัก (Primary package)

บรรจุภัณฑ์หลัก

ชั้นของบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันรักษาไม่ให้ตัวสินค้าได้รับความเสียหายหรือเพื่อความสะดวกในการนำไปใช้งาน ตัวอย่างเช่น

  • หลอดยาสีฟัน
  • ขวดแชมพู
  • ขวดน้ำ

2. บรรจุภัณฑ์รอง(Secondary package)

บรรจุภัณฑ์รอง

บรรจุภัณฑ์ที่มาห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์หลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวสินค้าได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • กล่องยาสีฟัน
  • กล่องใส่ขวดซอส

ประเภทของบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ถูกแบ่งออกโดยดูจากวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับผักและผลไม้จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท

1. เข่งไม้/พลาสติก

เข่งพลาสติก

เข่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศเนื่องจาก ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย เข่งสามารถบรรจุผลิตผลเกษตรได้ทุกชนิด กันน้ำ และช่วยระบายอากาศได้ มีรูปทรงหลายแบบส่วนใหญ่บรรจุผลิตผลได้ตั้งแต่ 15 –25 กิโลกรัม

ข้อเสีย คือ

  • ผักและผลไม้ได้รับการกระทบกระเทือนง่าย
  • อาจทำลายผิวของผัก ผลไม้โดยเฉพาะ ผัก ผลไม้ ที่มีผิวบาง

2. กล่องกระดาษลูกฟูก

กระดาษลูกฟูก

กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นภาชนะที่นิยมใช้เนื่องจากมีผิวเรียบไม่ทำความเสียหายกับผลิตผล ป้องกันการกระแทก สามารถพิมพ์รายละเอียดของสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยสามารถนำกลับมาเข้าขบวนการผลิตใหม่ได้

ข้อเสียของกล่องกระดาษลูกฟูกคือ

  • ไม่ทนน้ำ ต้องระมัดระวังเรื่องความชื้น การระบายอากาศระบายได้
  • มีความแข็งแรงน้อย ทำให้อาจมีความเสียหายจากการกระแทก

3.  ภาชนะพลาสติกแบบคงรูป

ภาชนะพลาสติกแบบคงรูป

พลาสติกมีคุณสมบัติที่ดีคือ ความแข็งแรง ทนทาน วางซ้อนได้ดี ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้ ผิวภายในเรียบไม่ทำลายผลผลิต ทำความสะอาดง่าย นำกลับมาใช้ได้ใหม่

แต่มีข้อเสียคือ

  • พลาสติกมีราคาค่อนข้างแพง

4.  ภาชนะไม้

ภาชนะไม้

ไม้เป็นภาชนะที่มีราคาถูก หาง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ทำให้มีข้อดีคือ ความแข็งแรง ทนทานสามารถวางซ้อนได้ สามารถออกแบบได้ตามต้องการ ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้แต่มีข้อควรระวังคือ การเกิดเชื้อรา

ส่วนข้อเสียของภาชนะไม้คือ

  • ผิวภายในแข็งและหยาบอาจทำความเสียหายต่อผลไม้ได้
  • การขึ้นรูป การเก็บรักษา การขนย้าย และการพิมพ์ข้อความทำได้ยาก

5. โฟม

โฟมป้องกันผลไม้

ผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดที่นิยมที่สุด คือ PS หรือ เรียกย่อๆ ว่า EPS เนื่องจากโฟมมีคุณสมบัติเด่นคือความหนาแน่นต่ำ มีความยืดหยุ่นป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำได้ดี อีกทั้งขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย ป้องกันฝุ่น ละออง ช่วยเก็บรักษาความสดไว้ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งใช้เงินทุนไม่สูงมากนัก

โฟมแบ่งออกได้หลายชนิดตามลักษณะรูปทรง ถือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกในการขายปลีก มากกว่าประโยชน์ด้านการขนส่งหรือป้องกันการกระทบกระเทือน

ข้อเสียคือ

  • ไม่มีความคงทน
  • ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

6. ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษขึ้นรูป

เยื่อกระดาษขึ้นรูป

เป็นวัสดุหรือภาชนะบรรจุทำจากเยื่อกระดาษให้เป็นรูปร่างตามต้องการ เยื่อกระดาษขึ้นรูปนั้นนิยมนำมาใช้เป็นวัสดุกันกระแทก ผักและผลไม้ที่บอบบาง เพื่อช่วยในการขนส่งเช่น การทำเป็นถาดหลุมใส่ผลไม้สด

ข้อเสีย

  • ต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกใช้มากกว่าผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงกับอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์

สรุป

บรรจุภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจะนำมาห่อหุ้มสิ่งของหรือสินค้าชนิดต่างๆ โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือแบบหลักและแบบรอง ซึ่งบรรจุภัณฑ์นั้นยังมีอีกหลายรูป โดยรูปแบบที่เหมาะแก่การเป็นบรรจุภัณฑ์ผักและผลไม้นั้นได้แก่

  • เข่งไม้/พลาสติก
  • กล่องกระดาษลูกฟูก
  • ภาชนะพลาสติกแบบคงรูป
  • ภาชนะไม้
  • โฟม
  • ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษขึ้นรูป

โดยผักและผลไม้แต่ละชนิดก็มีความเหมาะสมมในการใช้งานที่แตกต่าง หากเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจ ก็อลงดูว่าข้อเสียใดเป็นข้อเสียที่เรายอมรับได้มากที่สุดกันนะ

อ่านเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *